ห่วง..มือถือทำเด็กสมาธิสั้น...เรียนแย่!!
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เผย ต้องพัฒนาเด็กช่วงประถมศึกษาปีที่ 1-3 ต้องอ่านออกเขียนได้ คิดเลขได้ และรู้จักหน้าที่ความเป็นพลเมืองที่ดี เพราะปัจจุบันด็กมีสมาธิในการเรียนสั้นลง เนื่องจากนักเรียนติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ทำให้ไม่สนใจการเรียน
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ และ มีความเห็นร่วมกันว่าจะต้องพัฒนาเด็กในช่วงประถมศึกษาปีที่ 1-3 ให้สามารถอ่านออกเขียนได้ อ่านหนังสือเข้าใจ คิดเลขได้ รู้จักหน้าที่ความเป็นพลเมืองที่ดี โดยจะต้องอบรมและสร้างนิสัยดังกล่าวให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็ก หากปลูกฝังช่วงที่โตแล้วจะไม่ทัน
ขณะเดียวกันยังพบว่า ปัจจุบันเด็กมีสมาธิในการเรียนสั้นลง ปัญหาหลักที่พบคือ นักเรียนติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ตั้งแต่ระดับชั้นประถมจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เด็กไม่สนใจการเรียน เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ในห้อง ซึ่งส่งผลกระทบส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กแย่ลง
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเด็กไทยมี 2 กลุ่ม คือ
√ กลุ่มที่เรียนอย่างเดียว โดยไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับ
√ กลุ่มที่ไม่เรียนหนังสือเลย
โดยกลุ่มที่ไม่เรียนหนังสือ มีมากกว่ากลุ่มที่เรียน และโทรศัพท์มือถือ กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีเด็กที่ไม่เรียน หรือ เรียนอ่อนมีมากขึ้น คนเหล่านี้เมื่อจบมามีงานทำนิสัยก็เหมือนเดิม ต่อให้อายุมากขึ้นก็กลายเป็นมนุษย์ที่ติดโทรศัพท์
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ สพฐ.คงไม่ส่งหนังสือไปยังโรงเรียนต่างๆ เพื่อกำชับเพราะขณะนี้โรงเรียนส่วนใหญ่มีการดูแล สอดส่องตักเตือนนักเรียนในการใช้โทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว แต่ด้วยจำนวนนักเรียนในแต่ละห้องมีมาก ครูควบคุมไม่ทั่วถึง จึงอยากฝากพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลานและอบรมสั่งสอนไม่ให้ติดโทรศัพท หรือ ใช้โทรศัพท์มากเกินไป เพราะจำทำให้เด็กเสียสมาธิ ไม่สนใจการเรียน และ จะทำให้ส่งผลกระทบภาพรวมการศึกษาทั้งหมด
การสร้างเสริมสุขภาพ
==================================
♥ เตรียมความพร้อมต่อ การเรียนรู้ ให้ลูกน้อย
ให้มีสมาธิ สนใจการเรียนได้มากขึ้น ด้วย "อเลอไทด์"
√ ช่วยให้ปรับพฤติกรรมลูกได้ง่ายขึ้น