สมองล้า อย่ารอให้เสื่อม

สมองล้าอย่ารอให้เสื่อม

 

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความเสื่อมของร่างกายย่อมมาเยี่ยมเยือน โดยเฉพาะคนทำงานที่ใช้ร่างกายอย่างหนัก พักผ่อนน้อย มีภาวะเครียดสะสม อาจส่งผลให้อวัยวะสำคัญอย่างสมองเกิด "ภาวะสมองล้า" ส่งผลให้ ความจำ และ การทำงานของสมองลดลง ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์  โรคพาร์กินสัน โรคความจำเสื่อม ก่อนวัย  อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว เพราะฉะนั้นควรใส่ใจดูแลบำรุงสมองตั้งแต่วันนี้ก่อนสายเกินแก้

 

 รู้จักกับภาวะสมองล้า

ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome) คือ ภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัว จากการที่สมองถูกใช้งานอย่างหนักเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากความเร่งรีบที่จะทำงานให้เสร็จ การพักผ่อนน้อย หรือ การทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ทำให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทเสียสมดุล ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจึงแย่ลง มีการเปรียบเทียบไว้ว่า เหมือนมีหมอกลงในสมอง ทำให้ไม่สดใส

Brain Fog Syndrome หากเกิดบ่อยครั้งจะกลายเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคกระเพาะ, โรคอ้วน, ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ, โรคเบาหวาน ฯลฯ

 สาเหตุของภาวะสมองล้า

ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนยุคใหม่ มีส่วนสำคัญที่ทำให้โอกาสเกิด ภาวะสมองล้า เพิ่มมากขึ้น ได้แก่

  1. คลื่นแม่เหล็ก  จากการใช้งานคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บแล็ตมากเกินไป รบกวนการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง
  2. ความเครียด  ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการมึนงง ความจำ แย่ลง
  3. นอนดึก นอนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย
  4. ขาดสารอาหาร  อาทิ กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และ สารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ
  5. สารพิษในชีวิตประจำวัน  เช่น มลภาวะ สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอากาศ น้ำ และ อาหาร

 

photo

อาการเตือนภาวะสมองล้า

      √ นอนไม่หลับ

      √ ปวดศีรษะเรื้อรัง

      √ สายตาอ่อนเพลีย

      √ จัดการหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ไม่ดีเหมือนก่อน

      √ อารมณ์แปรปรวน

      √ หงุดหงิดง่าย

      √ ขี้หลงขี้ลืม

      √ ความจำระยะสั้นแย่ลง 

      √ สมาธิในการทำงานลดลง

      √ ความคิดสร้างสรรค์ที่เคยมีหายไป

      √ ลางานบ่อย 

      √ ไม่สดชื่น

 รักษาสมองไม่ให้ล้า
 
การรักษาภาวะสมองล้า จำเป็นที่จะต้องปรับวิธีการใช้ชีวิต ทั้งในด้านพฤติกรรม อาหาร จิตใจ การออกกำลังกาย รวมถึงการล้างสารพิษ ได้แก่

      > ควบคุมการใช้เทคโนโลยีในเวลาที่เหมาะสม ไม่นานจนเกินไปหรือตลอดทั้งวัน ควรหยุดพักบ้างเป็นระยะ

      > คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ไม่เครียด

      > ทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง

      > นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7 – 8 ชั่วโมง และควรนอนในเวลา 4 ทุ่มไม่เกินเที่ยงคืน

      > ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะช่วยให้สุขภาพสมองแข็งแรง

      > เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และไม่ดื่มกาแฟในช่วงเย็นเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ

      > ท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายและได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ช่วยเติมพลังชีวิตได้ดี

 

photo

การบำรุงสมองให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือ สิ่งสำคัญ นอกจากรู้จักใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ในเวลาที่พอดี พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด การเลือกทานอาหารเสริมบำรุงสมอง ที่มีส่วนผสมของน้ำมันปลา ธีอะนีน ฟอสฟาติดิลซีรีน  โคลีน วิตามินบี  เป็นต้น  ย่อมช่วยเสริมความจำ ลดความอ่อนล้าของสมอง ลดความเครียด ปรับสมดุลอารมณ์ ช่วยให้สมองแข็งแรง ไม่เสื่อมก่อนวัย

 

      -------------------------------------------------------------------------------------------

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพดีๆจาก :

www.bangkokhospital.com

ด้วยความหวังดีจาก ศุนย์สมองดี HealthyBrain

สนับสนุนโดย อเลอไทด์ สารอาหารบำรุงสมอง

เพิ่มสมาธิ เสริมสร้างความจำ ลดความเครียด

มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น

และ ลดความเสี่ยงต่อ ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย

ปรึกษาปัญหา ภาวะสมองล้า
หรือ สั่งซื้อ อเลอไทด์
โทร : 091-8871691 
Add Line : @HealthyBrain (มี@ด้วย)

เพิ่มเพื่อน

Visitors: 393,743