สอนลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ ด้วยการสร้าง 7 นิสัยเพิ่มสุขนี้

ความฉลาดทางอารมณ์

การสร้าง ความฉลาดทางอารมณ์ ของลูก หรือ EQ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจต่อพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วง และ ทำความเข้าใจกับธรรมชาติของลูกในแต่ละช่วงวัยเท่านั้น

 

อีคิว (EQ) กับ ไอคิว (IQ) เหมือนกันตรงที่เป็นความฉลาด แต่ความฉลาดทางสมอง หรือ ไอคิว (IQ) นั้นปรับเปลี่ยนได้ยาก ต่างจาก อีคิว (EQ) หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ที่เราสามารถปรับปรุงแก้ไขได้

EQ = Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์ สามารถแยกแยะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี

IQ = Intelligence Quotient คือ เชาว์ปัญญา

ซึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่แล้ว ย่อมอยากให้ลูกมี IQ ดีๆ  แต่การเลี้ยงลูกที่ดี ต้องฝึกให้มี EQ ที่ดีควบคู่กันไปด้วย เพราะ นอกจากลูกน้อยจะต้องมีความฉลาดในการเอาตัวรอดแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้ได้อีกด้วย เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต

โดย ความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ คือ ความสามารถทางอารมณ์ ในการที่จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข ซึ่งการรู้จักความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง เพื่อการพัฒนา และ การใช้ศักยภาพตนเอง ในการดำเนินชีวิตครอบครัว การทำงาน และ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และ ประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง

ความฉลาดทางอารมณ์

คุณลักษณะของเด็กที่มี EQ ดี

Daniel Goleman ได้จำแนก ความฉลาดทางอารมณ์ ออกเป็น 2 ทักษะใหญ่ๆ ดังนี้

  1. ทักษะการจัดการตนเอง (Self-Management Skills) ได้แก่ ความสามารถในการรู้จักตนเองทั้งจุดเด่นและจุดด้อย ความสามารถในการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ความมุ่งมั่นที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันขันแข็ง มุ่งมั่นในการทำงาน การคิดเชิงบวก (Positive Thinking) และ ไม่ท้อถอยเมื่อพบกับปัญหาหรืออุปสรรค
  2. ทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Relationship Skills) ได้แก่ ความสามารถในการเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีทักษะการเข้าสังคม รู้จักระมัดระวังคำพูด รู้ว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ รู้กาลเทศะ การสร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ ความสามารถในการโน้มน้าว ชักจูงให้ผู้อื่นคล้อยตามความคิดเห็นหรือร่วมมือด้วย

 

7 นิสัยดี สร้าง ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของลูกให้สูงลิ่ว

1. EQ ดี เริ่มที่พ่อแม่

เพราะพ่อแม่ คือคนที่อยู่ใกล้ชิดลูก คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูก ถ้าพ่อแม่เอาแต่เกรี้ยวกราด โมโห เหวี่ยงใส่ลูกบ่อยๆ ลูกก็จะซึมซับอารมณ์ที่ว่านี้ไปจากพ่อแม่  เขาจะโตขึ้นกลายเป็นเด็กที่มีอารมณ์รุนแรง  เกรี้ยวกราดง่าย  แต่ถ้าคุณแม่อยากให้เขาเป็นเด็ก EQ ดี  ยิ้มแย้มมีความสุข  ก็ต้องเริ่มต้นจากพ่อแม่ที่อารมณ์ดี  พูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใจเย็นกับลูก แล้วลูกจะเป็นเด็กอารมณ์ดีไปด้วย

2. ช่วยเฟ้นหาความสามารถพิเศษในตัวลูก แล้วคอยให้กำลังใจ

แน่นอนว่าลูกๆ อาจยังไม่รู้ว่า ตัวเองมีความสามารถพิเศษด้านไหน คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแล และ สังเกตอย่างใกล้ชิด  ถ้าเห็นว่าลูกชอบวาดรูป แม้จะยังไม่สวยหรือดูไม่ค่อยออกว่าวาดเป็นรูปอะไร  แค่ลูกจับดินสอหรือระบายสีเป็นประจำ  ขอให้คุณพ่อคุณแม่ลองสนับสนุน หรือ ช่วยไกด์ให้ลูกค่อยๆ วาดเป็นรูปเป็นร่าง  แล้วอย่าลืมให้กำลังใจด้วย การปรบมือ ยิ้มแย้ม หรือ ชมลูกบ่อยๆ  เขาก็จะเป็นเด็กที่มี EQ ดีในอนาคตได้

3. ให้ลูกสวดมนต์ และ ทำสมาธิ

วิธีนี้นอกจากจะทำให้เป็นเด็กที่มีสมาธิขึ้นแล้ว ยังรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากขึ้น ยิ่งฝึกตั้งแต่เด็ก รับรองว่าจะเป็นเด็กที่ใจเย็น มีสติอยู่กับตัว

4. ลูกต้องหัดแสดงความคิดเห็นและรับฟังเป็น

อาจจะหาเวลาพูดคุย ให้ลูกๆ ถาม-ตอบ โอกาสสมมุติต่างๆ เช่น ถ้าเวลามีเพื่อนมาดึงของเล่นในมือหนูไป หนูจะทำอย่างไร  หรือ ทำไมหนูถึงไม่ชอบ…. แล้วปล่อยให้เด็กๆ พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา  คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพูดคุยถึงเหตุผล และ ให้ลูกรับฟัง  แรกๆ อาจจะยังทำไม่ได้  แต่ทำซ้ำไปเรื่อยๆ  ลูกจะค่อยๆ ปรับอารมณ์ตัวเองให้ดีขึ้นได้

5. พูดคุยและรับฟัง เมื่อลูกเกรี้ยวกราด

เพราะทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความรัก  การที่ลูกกำลังโมโห  พ่อแม่อย่าเพิ่งดุลูกอย่างเดียว เพราะถึงลูกจะทะเลาะกับพี่น้องหรือเพื่อน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใช้สติกับลูกด้วย แล้วเข้าไปพูดคุยและรับฟังความรู้สึกของลูก  แสดงให้เขาเห็นว่า นี่คือความโกรธ ทำไมเขาถึงโกรธ บอกเล่าถึงเหตุผลถ้าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง และ ให้วิธีทางในการตอบโต้ที่ดีกว่า 

ความฉลาดทางอารมณ์

6. ใช้กีฬาเข้าช่วย

เพราะการเล่นกีฬา ย่อมมีแพ้และชนะสลับกันไป เมื่อเขาชนะก็ต้องสอนเขาว่า อย่าคาดหวังมากเกินไป เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะเป็นฝ่ายแพ้บ้างก็ได้  และ เมื่อเขาแพ้ก็ต้องสอนให้เขามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาสู้  เพื่อวันหนึ่งจะกลับมาเป็นผู้ชนะบ้าง และ กีฬายังเป็นตัวช่วยให้ลูกๆ จัดการอารมณ์ตัวเองในแต่ละช่วงวัยได้ดี และ ยังฝึกให้เขาอยู่ในกฎกติกา มีระเบียบวินัยด้วย

7. ความรักจากพ่อแม่สำคัญที่สุด

เด็ก ๆ บางคนแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด เพราะจริงๆ แล้วเขารู้สึกว่าอยากได้ความรักจากพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่สนใจ เลยทำตัวเรียกร้องความสนใจ หากคุณพ่อคุณแม่หมั่นแสดงความรัก ทำให้เขารู้สึกว่า พ่อแม่รักเขาเสมอ และ เขาสำคัญกับพ่อแม่ ด้วยการยิ้ม โอบกอด อารมณ์เกรี้ยวกราดของเขาจะค่อยๆ ลดลงได้เอง

อย่างไรก็ดี ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถส่วนหนึ่งของคนเรา ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ ความเข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึกของตนเอง และ นำเอาพลังแห่งอารมณ์และความรู้สึกนั้น มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ รวมถึง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วย

สำหรับเด็กที่มีความฉลาดทางอารมณ์ จะเป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตดี  มีความสุข สามารถเผชิญกับความคับข้องใจ แก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างราบรื่น ควบคุมตนเองได้ สามารถที่จะรอคอย และ ตอบสนองความต้องการได้  มีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลรอบข้าง  เป็นผู้นำ และ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกน้อยก็ควรได้รับการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ไปพร้อม ๆ กัน  เพื่อให้เป็นผู้ที่เก่ง ดี และ มีความสุข ประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียน  การทำงาน  และ ประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างราบรื่น

--------------------------------------------------- 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
Adhdthai
amarinbabyandkids.com

ด้วยความหวังดีจาก ศูนย์สมองดี HealthyBrain
สนับสนุนโดย อเลอไทด์  อาหารบำรุงสมอง

 

ปรึกษาปัญหาเด็กแอลดี/สมาธิสั้น
หรือ สั่งซื้อ อเลอไทด์

โทร : 091-8871691 
Add Line : @HealthyBrain (มี@ด้วย)

เพิ่มเพื่อน

Visitors: 393,762