ให้ลูกกินอะไรเมื่อเจ้าหนูเป็นเด็กสมาธิสั้น

ให้ลูกกินอะไรเมื่อเจ้าหนูเป็นเด็กสมาธิสั้น

ให้ลูกกินอะไรเมื่อเจ้าหนูเป็นเด็กสมาธิสั้น เพราะการดูเเลเรื่องโภชนาการของเด็กสมาธิสั้นนั้น สำคัญไม่เเพ้เรื่องอื่นเลย เเล้วลูกต้องกินอะไรบ้างนะ

ให้ลูกกินอะไรเมื่อเจ้าหนูเป็นเด็กสมาธิสั้น

  เเม้ว่าโภชนาการที่ดีจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเด็กๆทุกคน เเต่โภชนาการของเด็กทั่วไป กับ เด็กสมาธิสั้นนั้นเเตกต่างกัน

  โภชนาการที่ดี เป็นรากฐานเเห่งการเรียนรู้ เเต่สิ่งที่เเตกต่างระหว่างเด็กทั่วไปคือ โภชนาการของเด็กสมาธิสั้นนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะอาจหมายถึง ความเเตกต่างในเเง่ของสมาธิได้ เช่น เด็กๆ อาจจะมีสมาธิอยู่ตลอดทั้งวัน หรือ อาจจะมีสมาธิเรียนเเค่ในช่วงเช้า  ซึ่งในเเง่ของเด็กทั่วไปนั้น การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์บ้าง อาหารเเปรรูปบ้าง อาจจะไม่ส่งผลมาก

สิ่งที่เเตกต่างออกไป

1. หลีกเลี่ยงสีสังเคราะห์ รสจัด เเละสารกันบูด

   มีงานวิจัยที่พิสูจน์เเล้วว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กสมาธิสั้นนั้นมีอาการเเย่ลง ไฮเปอร์มากขึ้น มีสมาธิน้อยลง เเละ จากงานวิจัยเหล่านี้ทำให้ประเทศในเเถบยุโรปมีป้ายเตือนเกี่ยวกับอาหารมีมีสีสังเคราะห์ รสจัด เเละ สารกันบูด ด้วยคำเตือนว่า "อาจมีผลกระทบต่อกิจกรรมเเละความสนใจในเด็กๆ" เเน่นอนว่าในขนมถุงนั้นเติมสิ่งเหล่านี้ลงไปเยอะ  เเละ ในประเทศไทยยังไม่มีการออกมาเตือนใดๆ ทั้งสิ้น

2. จำกัดปริมาณน้ำตาล

   ไม่ใช่เด็กสมาธิสั้นทุกคนจะต้องระวังเรื่องน้ำตาล เเต่การควบคุมปริมาณน้ำตาล ก็เปรียบเสมือนการป้องกันไว้ก่อน  อาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงมากก็อย่างเช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมหวาน ลูกอมหรืออมยิ้ม รวมทั้งผลไม้ เเละ น้ำผลไม้ที่คั้นเอง ควรจำกัดไว้ที่วันละ 1 เเก้วเท่านั้น

3. อาหารเช้าสำคัญมาก

   ในอาหารมื้อเช้า สารอาหารสำคัญที่จะต้องมี คือเเหล่งโปรตีนที่ดีเเละไขมันดี หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเเละน้ำตาลที่ผ่านการแปรรูป เช่น เเพนเค้ก มัฟฟิน หรือ ซีเรียลเคลือบน้ำตาล หรือ อาหารที่ทำจากแป้งสาลีขัดขาว ซึ่งช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เเละ ร่างกายเอาไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว  เเต่กลับกันเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นในคราวเดียว  หลังจากหมดพลังงาน ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงอย่างมาก ซึ่งมีผลต่ออารมณ์  ทำให้เด็กๆ หงุดหงิด รำคาญ ทำให้มีปัญหาในการสนใจกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการเเสดงออกจะยิ่งชัดเจนในเด็กสมาธิสั้น

   อาหารเช้าที่เเนะนำคือ ธัญพืชไม่ขัดสี หรือข้าวกล้อง ซีเรียลที่เป็นธัญพืชไม่มีน้ำตาล โปรตีน อย่างถั่วหรือเนื้อสัตว์ เมล็ดพืชต่างๆ หรือ จะทำเป็นสมูธตี้ก็ได้เช่นกันค่ะ อาหารกลางวันก็เช่นกันค่ะ คาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสี ไม่เเปรรูป โปรตีน อย่างถั่ว เนื้อ เเละชีส ผักเเละผลไม้ก็กินได้

pexels-photo-218844

 

4. ซื้อเเบบออร์เเกนิคหรือไร้สารเคมี

   เลือกซื้ออาหารที่ไร้สารเคมีในกระบวนการปลูกเเละการผลิต เนื่องจากไม่มียาฆ่าเเมลง ฮอร์โมน เเละ การใช้สารเคมีอื่นๆ เนื่องจากมีการศึกษาในเด็กจำนวน 1,100 คน เด็กที่มียาฆ่าเเมลงในปัสสาวะสูงกว่า จะมีโอกาสเป็น โรคสมาธิสั้น สูงกว่าถึง 2 เท่า

   การกินผักเเละผลไม้ที่ปลอดสาร จะช่วยลดปริมาณสารเคมีได้ถึง 80%  นอกจากนี้ผักเเละผลไม้บางชนิดจะเสี่ยงมีสารเคมีมากกว่าชนิดอื่นๆ ทั้งนี้คุณพ่อคุณเเม่ควรหาข้อมูลก่อนซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหาร

5. เสริมโอเมก้า 3

   กรดไขมันที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายมายาวนานหลายทศวรรษ  ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันดอกคำฝอย เเละ ไขมันสัตว์  นอกจากนี้ไขมันที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในปลาบางชนิด ก็ยังจำเป็นมากต่อเด็กที่เป็นสมาธิสั้น  เนื่องจากช่วยในการทำงานของสมอง

6. ผักเเละผลไม้ไม่อั้น

   สารต้านอนุมูลอิสระ มีมากในผักเเละผลไม้ ซึ่งเด็กที่เป็นสมาธิสั้น จะขาดสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ  เเต่เด็กๆ ส่วนใหญ่อาจจะมีปัญหากับการกินผักเเละผลไม้ได้  เเต่ยังไงก็ต้องให้เด็กๆ กินบ้าง  ผสมลงไปในอาหารต่างๆ ก็ได้

   ทั้งนี้การให้รางวัลด้วยขนมต่างๆ ก็ยังทำได้เป็นครั้งคราว  เพียงเเต่ต้องระวังไม่ให้เด็กๆ กินบ่อยเกินไป เเละ คุณพ่อคุณแม่อาจจะลองบันทึกความเปลี่ยนเเปลงของลูกไว้ด้วย  เพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนเเนวทางที่ได้ผลดีที่สุดต่อลูกๆ 

 

--------------------------------------------

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ และรูปภาพจากเว็บไซต์

th.theasianparent.com

ข้อมูลอ้างอิงจาก manager.co.th

ด้วยความหวังดีจาก ศูนย์สมองดี Healthy Brain

สนับสนุนโดย อเลอไทด์

ปรึกษาปัญเด็กสมาธิสั้น
หรือ สั่งซื้อ อเลอไทด์

โทร : 091-8871691 
Add Line : @HealthyBrain (มี@ด้วย)

เพิ่มเพื่อน

Visitors: 394,185