ทำไมเด็กไทยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้

    สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ได้รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2557 ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา มีหัวข้อน่าสนใจเกี่ยวกับคุณภาพนักเรียนไทยมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่ำ โดยเฉพาะปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ มีการอ้างอิงผลสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐที่สุ่มสำรวจเมื่อปี 2556 พบว่า ในจำนวนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ราว 445,000 คน อยู่ในข่ายต้องปรับปรุงมากถึง 127,800 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 28.7 จำแนกเป็นเด็กที่อ่านไม่ได้เลย 27,000 คน, อ่านได้ แต่อยู่ในระดับปรับปรุง 23,700 คน, อ่านได้ ไม่เข้าใจ14,600 คน, อ่านได้เข้าใจบ้าง 62,000 คน ในขณะที่เด็กชั้น ป.6 จากจำนวน 444,000 คน อยู่ในข่ายต้องปรับปรุง 73,290คน หรือประมาณร้อยละ 16.5 จำแนกเป็นเด็กที่อ่านไม่ได้เลย 7,880 คน, อ่านได้ แต่อยู่ในระดับปรับปรุง 6,750 คน, อ่านได้ แต่ไม่เข้าใจ 7,080 คน และอ่านได้เข้าใจบ้าง 51,580 คน

   คนทั่วไปอ่านข่าวนี้แล้วอาจจะรู้สึกตกใจว่า ระบบการศึกษาในบ้านเราที่บริหารจัดการโดยกระทรวงศึกษาธิการ ทำไมถึงได้ตกต่ำมากถึงขนาดนี้ และหลายๆ คนอาจจะมองไปถึงคำตอบถึงต้นตอปัญหาว่า เหตุใดคุณภาพการศึกษาไทยในยุคหลังๆ ถึงได้แพ้แม้กระทั่ง ลาว และกัมพูชา จากการจัดอันดับขององค์กรระดับนานาชาติ

แต่ถ้าเป็นคนในแวดวงการศึกษา หรือผมเองที่ทำข่าวในสายการศึกษามากว่า 20 ปี อาจจะมองเป็นเรื่องของปัญหาที่ซ้ำซากจนชินชาไปแล้วก็ว่าได้ครับ เพราะไม่เคยเห็นเค้าลางว่า กระทรวงศึกษาฯที่มีคนระดับด๊อกเตอร์นั่งทำงานอยู่มากมายจะแก้ปัญหานี้ได้ หรืออาจจะมองว่าไม่ใช่ปัญหาสำคัญอะไรมากมาย เลยไม่เอาจริงเอาจังกับการค้นหาสาเหตุแห่งความล้มเหลวนี้

    หากคิดไปเช่นนั้นก็ถือว่า เป็นอันตรายต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองครับ เพราะเด็กจำนวนไม่น้อยเหล่านั้นต้องออกจากระบบการศึกษาไป เนื่องจากเรียนหนังสือต่อไปไม่ได้ และอีกจำนวนไม่น้อยที่เรียนต่อไปแบบกระท่อนกระแท่นจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้วก็ไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ไปกองกันอยู่ในสาขาวิชาที่พอเรียนไปได้ โดยเฉพาะสายสังคม จบปริญญาตรีออกมาก็ตกงาน ต้องไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ขายเสื้อผ้ากันเกลื่อนบนฟุตบาทริมถนน

หลายคนอาจโชคดีหลุดเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจหนังสือพิมพ์อย่างที่ผมเคยทำงานมา แต่ก็ไปเป็นภาระกับรุ่นพี่ๆ อย่างที่ผมพบเจอกับนักข่าวรุ่นน้องหลายๆ คนที่เขียนหนังสือผิดเป็นประจำ เช่นกรณีที่ผมเจอกับตัวเองแล้วอึ้ง “ปะหลัดกระทรวง” เขียนมาได้ไง!!

  ผมว่าท่านผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการที่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ท่านต้องรีบหาทางแก้ไขโดยทันที ก่อนที่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยเราจะแพ้แม้แต่พม่า จนกลายเป็นรั้งอันดับโหล่ในกลุ่ม 10 อาเซียนในไม่ช้า

    ผมว่าท่านลองคิดใหม่ครับว่า เราให้เด็กเล็กๆ แค่วัยประถมศึกษาเรียนองค์ประกอบในวิชาภาษาไทยมากจนเกินไปหรือปล่าว ? มากจนเด็กวัยนี้ขยาดกลัว หรือเบื่อที่จะเรียนหรือไม่ คำเป็น คำตาย แม่กก แม่กง คำพ้องเสียง พ้องรูป คำสมาธิ คำสนธิ หรือคำอะไรๆ อีกหลายๆ อย่าง เราจำเป็นต้องยัดเยียดเข้าไปหรือไม่ ? หรือเราจะค่อยให้เค้าไปเรียนตอนโตในระดับมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาชีพเกี่ยวกับภาษาจะดีหรือไม่ ?

   อีกประการสำคัญ ท่านลองชักชวนครูอาจารย์ที่สอนอยู่ตามโรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งประสบปัญหากับบรรดาลูกศิษย์โดยตรง มาร่วมร่างหลักสูตรภาษาไทยที่จะให้เรียนแต่ละระดับชั้นก็น่าจะดีนะครับ ไม่ใช่ใช้บริการแต่ระดับด๊อกเตอร์ที่เก่งวิชาการกันอยู่แล้วจนมองทุกอย่างง่ายนิดเดียว แต่ยากเยอะสำหรับเด็กๆ

ทั้งนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า เด็กที่เรียนต่อยอดมาได้จนจบมหาวิทยาลัยออกสู่โลกการทำงานจำนวนมหาศาล รวมทั้งตัวผมเอง ที่เขียนภาษาไทยกันได้ เพราะจดจำรูปคำเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ คำที่ไม่ค่อยได้เจอะเจอก็มักจะเขียนกันไม่ถูก ต้องไปเสิร์ชหาจากกูเกิล

ขั้นที่ 1 ฝึกอ่านทุกวันในช่วงพักกลางวันเพื่อความต่อเนื่อง โดยใช้หนังสือเรียน นิทาน คำ อักษรไทย

ขั้นที่ 2 ฝึกการอ่านควบคู่กับการเขียน โดยใช้อักษรไทย คำ ประโยค นิทาน

ขั้นที่ 3 การฝึกคัดลายมือ นอกจากทำให้ลายมือสวยงามแล้วยังเป็นการช่วยในการจดจำรูปคำต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย

ขั้นที่ 4 การวาดรูปประกอบคำ ด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และสนุกไปกับงาน โดยมีการจำแนกคำออกมาเพื่อให้นักเรียนเข้าใจการผสมคำมากขึ้น

ขั้นที่ 5 การนำคำมาแต่งเป็นประโยคสื่อสารรูปหรือเหตุการณ์จริง เช่น ใคร+ทำอะไร, ใคร+ทำอะไร+กับใคร

ขั้นที่ 6 การเขียนคำตามภาพวาดโดยให้นักเรียนมีอิสระตามความคิดของนักเรียนเอง โดยกระบวนการ 6 ขั้นนี้ เด็กๆ จะต้องผ่านไปทีละขั้นโดยมีนักเรียนอาสาและครูตุ้มคอยช่วยกัน

และเมื่อครบ 6 ขั้นแล้ว ก็เริ่มสอนขั้นที่ 1-6 ใหม่ขยับจากยากขึ้นมาทีละน้อยๆ ทำอย่างนี้ทำให้เห็นผลงานที่ออกมามองเห็นเด็กมีความภูมิใจในตัวเองเพราะการอ่านออกเขียนได้

===============================
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
siamedunews.com
สนับสนุนโดย
ศูนย์สมองดี HealthyBrain
อเลอไทด์ อาหารเสริมบำรุงสมอง

ปรึกษาปัญหาสมาธิสั้น
หรือ สั่งซื้อ อเลอไทด์

โทร : 091-8871691 
Add Line : @HealthyBrain


เพิ่มเพื่อน

Visitors: 412,453