ลูกทำการบ้านไม่เสร็จ ต้องฝึกให้ลูกรับผิดชอบชีวิตตัวเองใหม่
เมื่อถึงวัยเรียนแล้วลูกมีการบ้านเยอะมาก ทำให้เด็กๆ ทำไปหยุดไป อิดออด หรือ ทำการบ้านไม่เสร็จ จนคุณครูต้องโทรมาหาอยู่บ่อยๆ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ เรามาดูวิธีแก้ไข “ อย่างยั่งยืน ” กันครับ
เวลาพบปัญหาเรื่องการบ้านของลูก คุณพ่อคุณแม่อย่ามัวแต่หมกมุ่นกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ควรระลึกเสมอว่า ก่อนที่จะมีวันนี้ เขามีชีวิต 5 ปีก่อนหน้านี้ และ ชีวิต 5 ปีก่อนหน้านี้ เป็นต้นเหตุนำมาสู่วันนี้นั่นเอง คือ ทำการบ้านไม่รู้จักเสร็จเสียที พูดเช่นนี้มิใช่กล่าวหาว่า เราเลี้ยงไม่ดี เพียงแค่จะบอกว่า การจะแก้ไขอดีต คือ เตรียมความพร้อมกันใหม่ แก้ไขปัจจุบัน คือ จัดการเรื่องการทำการบ้านให้เสร็จในเวลาที่กำหนด เหมือนกับนักกีฬาที่พื้นฐานยังไม่ดี ยังไงก็ต้องทำไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น
เรื่องในอดีต คือ เป็นไปได้ว่าเขาไม่เคยต้องรับผิดชอบทำอะไรให้สำเร็จเลย หรือ อาจจะมีบ้างก็ไม่มากพอ (inadequate) เรื่องที่เด็กหรือมนุษย์ทุกคนควรได้รับการฝึกตั้งแต่แรกๆ คือ รับผิดชอบชีวิตและบ้านของตัวเอง คุณแม่ลองนั่งทบทวนใหม่ตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน เขาได้รับโอกาส หรือ รับการฝึกอะไรบ้าง เก็บที่นอน เอาชุดนอนลงตะกร้า ไปล้างหน้าแปรงฟัน วางสบู่และแปรงสีฟันให้เข้าที่ หมุนฝาหลอดยาสีฟันให้เรียบร้อย แต่งตัวให้ทันเวลา ลงมากินอาหารเช้าให้ทันเวลา กินบนโต๊ะอาหารตามที่ผู้เจริญแล้วทำ กินเสร็จแล้วเอาจานไปวางในอ่างล้างจาน ช่วยเช็ดโต๊ะอาหารบ้างหรือเปล่า ตอนเช้ารีบๆจะไม่ล้างจานเองก็ไม่เป็นไร แต่เสาร์อาทิตย์หรือมื้อเย็น รับผิดชอบล้างจานหรือไม่ ขึ้นรถทันเวลา ไปโรงเรียนให้ทัน หากลืมของอะไรก็จงรับผิดรับชอบ (accountable) การลืมของตนเอง มิใช่พ่อแม่ขับรถเอาของไปส่งให้ทุกครั้ง
ไล่ไปเถอะครับ จนถึงภาคเย็นเมื่อกลับเข้าบ้าน เขาได้รับโอกาสและการฝึกให้ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นๆ หรือ เป็นลำดับๆบ้าง หากคุณแม่ว่าทำแล้ว ผมจะตอบว่า “ ไม่พอ ” อย่างแน่นอน คำว่าฝึกพอแล้วหรือฝึกไม่พอ ขึ้นกับเด็กแต่ละคนครับ บางคนฝึกไม่มากก็รู้เรื่องทำเป็น บางคนต้องฝึกมากกว่ามากจึงจะรู้เรื่อง ถามว่ารู้อะไร คำตอบมิใช่ว่ารู้วิธีถูบ้าน อย่าหลงประเด็น คำตอบคือ รู้ว่า “ เกิดเป็นคนต้องทำอะไรบางอย่างให้เสร็จในเวลาที่กำหนดให้ ”
สรุปว่าหากคุณแม่อยากแก้ปัญหาเรื่องทำการบ้าน ให้ไปฝึกทักษะการใช้ชีวิตใหม่หมด หากทำได้เขาจะดีไปหมดทุกเรื่อง หากไม่ทำ จบเรื่องการบ้านก็รับประกันว่า จะมีเรื่องใหม่มาให้ท่านปวดปวดศีรษะอีก คราวนี้เรื่องการบ้าน ก่อนอื่นขอให้เข้าใจลูกก่อนว่า การบ้านจากโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นการบ้านที่ไม่เข้าท่า ไม่ค่อยมีประโยชน์ และ ทำเสร็จไปก็เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ลูกเราฉลาด หรือ เป็นนักเรียนรู้ที่ดีกี่มากน้อย ไปเล่นยังมีประโยชน์กว่าเยอะ อย่างไรก็ตามเรามีหน้าที่สอนให้เขาทำตามกติกาสังคม
เมื่อเข้าใจสถานการณ์น่าอึดอัด และ ไม่สนุกแล้ว เราจะได้เห็นใจเขามากขึ้น ไม่ต้องดุแต่ต้องนั่งคุมเขาทำการบ้านให้เสร็จ เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณแม่ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวมานั่งใกล้ๆ ทั้งเป็นผู้คุมกฎและให้กำลังใจ ไม่เสร็จไม่ให้ลุก เสร็จเมื่อไรก็หอมแก้มสักฟอดนึง แล้วลูกคุณจะม่ีกำลังใจในการทำงานบ้านในวันต่อๆ ไปครับ
-------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ และรูปภาพจากเว็บไซต์
นพ. ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ด้วยความหวังดีจาก ศูนย์สมองดี Healthy Brain
สนับสนุนโดย อเลอไทด์