อย่าปล่อยให้ ความเครียด บั่นทอนการเรียนรู้ของลูก
"ความเครียด" บั่นทอนศักยภาพการเรียนรู้ของลูกน้อย
พ่อแม่หลายคน อยากให้ลูกเรียนเก่ง แต่ก็ไปกดดันที่ลูก ทำให้ลูกเกิดความเครียด ซึ่งความเครียดในเด็ก ส่งผลร้ายต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ และ คุณภาพชีวิตในระยะยาวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทำให้ผลการเรียนของลูกไม่ดี เรียนไม่ทันเพื่อน ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ทำการบ้านที่ยากเกินไป ไม่อยากไปโรงเรียน ผลการเรียนตกต่ำ
นักวิชาการยืนยันว่า ความเครียด และ ประสบการณ์เลวร้าย การได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจในวัยเด็ก มีผลกระทบต่อโครงสร้างสมอง และ การเรียนรู้ ประสบการณ์เลวร้ายที่กระทบกระเทือนจิตใจเด็ก ทำให้เด็กเกิดความกลัว ความเครียด ต่อมหมวกไต จะหลั่งสารเคมี หรือ ฮอร์โมนบางอย่าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมอง และ ถ้าหากประสบการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จะเปลี่ยนโครงสร้างของสมองไปโดยถาวร
ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเวลาเครียด เรียกว่า คอร์ติโซล ( Cortisol ) จะไปทำลายสมอง โดยเฉพาะส่วนคอร์เท็กซ์ หรือ พื้นผิวสมอง ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความฉลาด กับ สมองส่วนฮิปโปแคมปัส หรือ สมองส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ และ ความจำ ทำให้สมองส่วนนี้เล็กลง
พบว่า เด็กที่ได้รับประสบการณ์ที่เลวร้าย ได้รับความกระทบกระเทือน ไม่ว่าทางทางกายหรือจิตใจ จะมีสมองส่วนนี้เล็กกว่าเด็กทั่วไปประมาณ 20-30% มีจุดเชื่อมต่อของเส้นใยสมองน้อยกว่าเด็กปกติทั่วไป จะทำให้สารเคมีในสมองไปรบกวนเซลล์สมอง ทำให้เซลล์สมองบางตัวถูกกระตุ้น ในขณะที่เซลล์สมองบางตัวถูกยับยั้ง การทำงานของสารเคมีเหล่านี้เอง เป็นตัวสำคัญที่จะกำหนดให้เซลล์สมอง สร้างเส้นใยสมองออกไปในทิศทางใด ให้ไปเชื่อมต่อกับเซลล์สมองตัวใด
ถ้าคนเรามีฮอร์โมนเครียด หรือ คอร์ติโซล ในระดับสูงมากในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่สมองกำลังเจริญเติบโตอย่างมาก และ รวดเร็ว จะไปเพิ่มการทำงานของสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การตื่นตัว กับสมองที่เกี่ยวกับการระมัดระวังตลอดเวลา กระตุ้นให้สมองสร้างเส้นใยสมอง ที่ทำให้เป็นคนตื่นกลัวตลอดเวลา
เด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความเครียดสูง จึงมีปัญหาในการควบคุมสมาธิ และ การควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของ โรคไฮเปอร์เอ็กทีฟ( Hyperactive) มีอาการเลิ่กลั่ก อยู่ไม่สุข เครียด อดรนทนรออะไรไม่ได้ หรือ ที่เรียกกันว่า สมาธิสั้น นั้นเอง
เด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความเครียดสูง จึงมีปัญหาในการควบคุมสมาธิ และ การควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของ โรคไฮเปอร์เอ็กทีฟ( Hyperactive) มีอาการเลิ่กลั่ก อยู่ไม่สุข เครียด อดรนทนรออะไรไม่ได้ หรือ ที่เรียกกันว่า สมาธิสั้น นั้นเอง
เด็กที่ได้รับความเครียดอยู่ตลอดเวลา หรือ พบความเครียดที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ เช่น พ่อแม่ทะเลาะตบตีกันบ่อยๆ พ่อหรือแม่อารมณ์ไม่แน่นอน วันหนึ่งดี อีกวันหนึ่งร้าย พ่อแม่หย่าร้าง หรือ การเลี้ยงดูที่เข้มงวด เครียดจากการเรียน ทำให้ลูกขาดความสามารถที่จะเรียนรู้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะ ลูกเกิดมาสมองเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ แต่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ ความสามารถที่จะเรียนรู้ได้หายไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นพ่อแม่จะต้องให้ลูกอยู่ห่างไกลจากความเครียด ตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
รศ.พญ ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์ (ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสมองเด็ก)
TheAsianParent Thailand
======================================
♥ เตรียมความพร้อมต่อ การเรียนรู้ ลดความเครีด
จากการเรียนออนไลน์ ให้ลูกน้อยด้วย "อเลอไทด์"
ด้วยความปรารถนาดีจาก ศูนย์สมองดี HealthyBrain
สนับสนุนโดย อเลอไทด์ อาหารเสริมบำรุงสมอง
√ เสริมสร้างสมาธิ เพิ่มความจำ การเรียนรู้ ให้ดีขึ้น
√ ช่วยลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดี
√ กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
√ ช่วยให้ลำดับความคิด เป็นระบบระเบียบมากขึ้น
√ ช่วยให้ปรับพฤติกรรมลูกได้ง่ายขึ้น
√ ช่วยให้ปรับพฤติกรรมลูกได้ง่ายขึ้น
√ ดูแลอาการสมาธิสั้นให้ดีขึ้น ทำให้ผลการเรียนดีขึ้น
**เสริมอาหารสมองให้ลูกน้อย ทำให้มี IQ และ EQ ที่ดี
ป้องกัน/ลดความเสี่ยงต่อ สมาธิสั้น ได้ด้วย "อเลอไทด์"
