อนาคตของเด็กสมาธิสั้น จะเป็นอย่างไร..?
# สิ่งที่ พ่อ-แม่ ทุกคนอยากรู้ก็คือ ลูกของเราที่เป็นโรคสมาธิสั้นนั้น โตขึ้นแล้ว เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
ลูกจะดีขึ้นไหม หายขาดไหม..?
ลูกจะเรียนหนังสือได้ไหม เข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่า..?
ลูกจะทำงานได้ไหม จะเข้ากับคนรอบข้างได้่หรือไม่..?
ลูกจะมีครอบครัวได้ไหม..? มีลูกหลานแล้วจะเป็นอย่างไร..?
นี่คงจะเป็นคำถามในใจพ่อแม่ทุกคน ถ้าเราทราบข้อมูลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราจะได้ทำการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องรวดเร็ว
⇒ เด็กที่เป็นสมาธิสั้น เมื่อโตขึ้นจะหายได้หรือไม่..?
เมื่อเด็กโตขึ้นผ่านวัยรุ่น ประมาณ 1 ใน 3 ของเด็กมีโอกาสหายจากโรคนี้ได้เอง สามารถเรียนหนังสือ หรือ ทำงานได้โดยปกติ โดยไม่ต้องรับประทานยา เนื่องจากระบบประสาทในสมองส่วนหน้ามีการพัฒนาการที่สมวัยมากขึ้น อาการมักจะดีขึ้น โดยไม่ต้องรักษาอะไรเลย
⇒ แล้วเด็กอีก 2 ใน 3 ละจะเป็นอย่างไรบ้าง..?
มีการศึกษาในระยะยาวของเด็กสมาธิสั้น เพื่อดูว่าเด็กเหล่านี้อายุมากขึ้น แล้วอาการของโรคจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง จะหายเมื่อไหร่ และจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นได้บ้าง เด็กเหล่านี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่..?
โดยเรามาดูตัวอย่างผลการศึกษาเรื่องเหล่านี้กัน
การศึกษาของ Weiss
Weiss และผู้ร่วมงาน ได้ติดตามดูกลุ่มเด็กสมาธิสั้นที่วินิจฉัย เมื่ออายุเฉลี่ยประมาณ 8 ปี โดยติดตามเมื่อ 5, 10, 15 ปีผ่านไป พบว่า เมื้อผ่านไป 5 ปี (อายุเฉลี่ยประมาณ 13 ปี) ถึงแม้ว่าอาการซน อยู่ไม่นิ่ง และก้าวร้าว จะลดลงตามอายุ แต่ส่วนใหญ่จะยังคงมีปัญหาทางอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมตามวัย ไม่สามารถทำอะไรให้บรรลุเป้าหมายได้ และ มีความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
- ร้อยละ 80 จะมีผลการเรียนที่ไม่ดี โดยร้อยละ 70 จะเรียนซ้ำ อย่างน้อย 1 ปี และร้อยละ 35 จะเรียนซ้ำ 2 ปี หรือมากกว่า
- ร้อยละ 25 จะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม ( Antisocial) • เมื่อผ่านไป 10 ปี (หลังผ่านวัยรุ่น) จะมีอาการวู่วาม ความวิตกกังวล ความตึงเครียด และอาการต่อต้านมากขึ้น ส่วนน้อยจะมีปัญหาทางจิตเวชที่รุนแรงหรือมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม
เมื่อผ่านไป 15 ปี (เป็นผู้ใหญ่อายุประมาณ 25 ปี) จะยิ่งมีบุคลิกภาพผิดปกติในด้านต่อต้านสังคมมากกว่าคนทั่วไปกลุ่มควบคุม (คือ ร้อยละ 23 : 2) และจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ ร้อยละ 66 จะยังคงมีอาการผิดปกติของโรคสมาธิสั้นอย่างน้อย 1 อย่าง
การศึกษาของ Jan Loney
Jan Loney และผู้ร่วมงาน ได้ศึกษาเด็กสมาธิสั้นที่วินิจฉัยเมื่ออายุระหว่าง 4 – 12 ปี จำนวน 200 ราย เมื่อเด็กเหล่านี้อายุ 21- 23 ปี จำนวน 65 ราย พบว่ามีโอกาสสูงในการเกิดบุคลิกภาพต่อต้านและเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
Lambert ได้รับการศึกษาเด็กสมาธิสั้นก็พบว่า
- ร้อยละ 20 หาย
- ร้อยละ 37 มีความผิดปกติด้านการเรียนลำพฤติกรรมเหลืออยู่
- ร้อยละ 43 อาการคงเดิม
จะเห็นได้ว่าแต่ละการศึกษาที่แตกต่างกัน ก็จะมีข้อสรุปที่แตกต่างกันบ้าง แต่ว่าแนวโน้มทั้งหมดแล้วจะคล้ายกัน กล่าวคือ
♦ เมื่อโตขึ้น อาการหุนหันพลันแล่นและอาการไม่อยู่นิ่ง จะลดลง ทำให้เข้าใจผิดว่าหายแล้ว แต่ถ้าดูกันดีๆ จะพบว่าเขายังมีความผิดปกติอยู่ เทียบกับเพื่อนอายุรุ่นเดียวกัน
♦ ส่วนหนึ่งประมาณร้อยละ 25-50 ยังคงมีปัญหา ขาดความสามารถในการควมคุมตนเอง วอกแวก พฤติกรรมต่อต้านสังคม อารมณ์ร้อน ติดสุรา และยาเสพติดได้ เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
♦ เด็กสมาธิสั้นบางส่วนเท่านั้น ที่อาการจะหายไป
ปัจจัยที่สำคัญมากในการรักษาโรคสมาธิสั้น คือ *การพยายามมลดสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้สมาธิสั้นมากขึ้น และ ปรับพฤติกรรมด้วยการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี* เพราะ ยารักษาโรคสมาธิสั้นที่ดีที่สุดคือ “ความรัก ความเข้าใจ ของพ่อแม่”
นพ. นาโนช อาภรณ์สุวรรณ
============================================
♥ เตรียมความพร้อมต่อ การเรียนรู้ เปิดเทอมใหม่นี้
ให้ลูกน้อย ด้วย "อเลอไทด์"
สนับสนุนโดย อเลอไทด์ อาหารเสริมบำรุงสมอง
√ เสริมสร้างสมาธิ เพิ่มความจำ การเรียนรู้ ให้ดีขึ้น
√ ช่วยลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดี
√ กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
√ ช่วยให้ลำดับความคิด เป็นระบบระเบียบมากขึ้น
√ ช่วยปรับพฤติกรรมลูกได้ง่ายขึ้น
√ ดูแลอาการสมาธิสั้นให้ดีขึ้น ทำให้ผลการเรียนดีขึ้น
**เสริมอาหารสมองให้ลูกน้อย ทำให้มี IQ และ EQ ที่ดี
ป้องกัน/ลดความเสี่ยงต่อ สมาธิสั้น ได้ด้วย "อเลอไทด์"